อ้าว ทำไมล่ะ? ทำไมต้องสนใจด้วยว่าจะใช้ผิด ก็ในเมื่อเขาว่ากันว่าให้ ฝึกเยอะๆ พูดๆ ไปเถอะ ผิดถูกช่างมันก่อน ออกเสียงมั่วๆ ไปก่อน ไม่ต้องสนใจแกรมกง แกรมม่าด้วย แค่สื่อสารให้เข้าใจก็พอแล้วนี่ จะอะไรกะชั้นนักหนา หา!!! บลาๆๆๆๆ
ใจเย็นๆ ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะบอกเล่าเท้าความให้ฟังว่าเพราะอะไร
คือว่า เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ.....
การฝึกใช้งานภาษาอังกฤษทุกครั้ง เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือเขียน เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและน่าชมเชยเป็นอย่างยิ่งครับ ซึ่งแน่นอนว่า เราจะต้องมีพูดผิดบ้าง ออกเสียงผิดบ้าง แกรมม่าเพี้ยน เขียนผิดเขียนถูก เป็นเรื่องธรรมดา
แต่สิ่งสำคัญที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ เราจะต้องรู้ว่า ไอ้ที่เราพูด หรือเขียนออกไป เมื่อกี้ มันถูกต้องหรือไม่ ถ้าผิด แล้วประโยคที่ถูกต้อง มันพูดอย่างไร และเขียนอย่างไร โดยจะต้องรู้ให้เร็วที่สุดด้วย
พูดสั้นๆ ให้เข้าใจง่าย ก็คือ ผิดได้ แต่ต้องรีบแก้ไขให้ถูกต้องทันที และเอาของที่มันถูกต้องไปใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ก็เพื่อว่า จิตใต้สำนึกเราจะได้จดจำ รูปประโยค คำศัพท์ การออกเสียง ที่ถูกต้อง เมื่อพบเห็นมันอีกครั้ง เราจะได้ไม่ปล่อยไก่อีก เพราะไม่งั้นแล้ว การใช้ผิดๆ มันจะติดตัวเป็นนิสัยที่แก้ยาก
คำถามถัดมา ที่เพื่อนๆ อยากถาม ก็คือ แล้วจะรู้ได้ไงว่า อะไรคือผิด!!!
แน่นอนครับ หนทางเดียวก็คือ เพื่อนๆ จะต้องมีคนคอยแก้ไขให้ตลอดเวลา ทุกประโยค ทุกคำศัพท์
นั่นคือ คุณอาจจะต้องจ้างครูสอนภาษา มานั่งสอน ตัวต่อตัว คำต่อคำ และครูท่านนั้น ควรจะเป็นฝรั่งแท้ด้วยครับ (ก็คือ ต้องเสียตังค์จ้าง นั่นเอง)
เพราะฉะนั้น การหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษอย่างผิดๆ และใช้มันให้ถูกตั้งแต่แรกเริ่มเลย จึงเป็นวิธีที่ประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพที่สุด
ส่วนวิธีการที่จะใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องง่ายๆ ก็คือ การรับข้อมูล (Input) ที่ถูกต้องให้เยอะๆ เข้าไว้ โดยการอ่านให้มากๆ ฟังให้มากๆ (ต้องมาจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ด้วยนะครับ)
ซึ่งเป็นวิธีที่เพื่อนๆ สามารถทำได้ด้วยตนเองง่ายๆ ไม่ต้องเสียตังค์ และมีประสิทธิภาพด้วย เจ๋งมั้ยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น