สวัสดีครับ เพื่อนๆ ว่าที่ ฝรั่งในร่างคนไทยทุกคน
เชื่อว่า เพื่อนๆ คงจะเคยเจอปัญหาในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ (Pronunciation) เหมือนกันทุกๆคน ว่าเจ้าศัพท์คำนี้ หรือประโยคนี้ ทั้งประโยค ฝรั่งเค้าพูดกันยังไง ออกเสียงสูงต่ำตรงไหนบ้าง
โอ๊ย! จน เครียด กินเหล้า !!! (คำเตือน : สุราเป็นเหตุทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทและอาชญากรรม)
เย็นไว้ครับพี่น้อง วันนี้ ผมจะขอนำเสนอ 5 เทคนิคเคล็ดลับสุดยอดในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ มาแบ่งปันกันครับ ที่สำคัญฟรีๆๆๆๆ ครับป๋ม
นั่นก็คือ การใช้ Text-to-Speech Software มาช่วยนั่นเองครับ มาดูกันเลย พี่น้องคร้าบ
รวบรวมเคล็ดลับและเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ อย่างสนุกและมีประสิทธิภาพ
วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557
ออกเสียงให้ถูกต้อง (Pronunciation) : เคล็ดลับที่ 4 ในการเรียนภาษาอังกฤษ
ในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ การออกเสียงให้ถูกต้อง (Pronunciation) ตามที่ชาวบ้านฝรั่งเขาใช้กันจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อว่า
นั่นคือ เราสองจะได้เข้าใจกันและกัน ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง และพูดไปฝรั่งก็เอ๋อ ก็คือ การออกเสียงอย่างผิดๆ (ตามใจฉัน) นั่นเอง
- เราจะได้เข้าใจที่เค้าพูด
- เค้าจะได้เข้าใจสิ่งที่เราสื่อ
นั่นคือ เราสองจะได้เข้าใจกันและกัน ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง และพูดไปฝรั่งก็เอ๋อ ก็คือ การออกเสียงอย่างผิดๆ (ตามใจฉัน) นั่นเอง
วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557
หลีกเลี่ยงการใช้ผิด (Avoid Mistakes) : เคล็ดลับที่ 3 ในการเรียนภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับที่ 3 สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษอย่างผิดๆ (Avoid Making Mistakes)
อ้าว ทำไมล่ะ? ทำไมต้องสนใจด้วยว่าจะใช้ผิด ก็ในเมื่อเขาว่ากันว่าให้ ฝึกเยอะๆ พูดๆ ไปเถอะ ผิดถูกช่างมันก่อน ออกเสียงมั่วๆ ไปก่อน ไม่ต้องสนใจแกรมกง แกรมม่าด้วย แค่สื่อสารให้เข้าใจก็พอแล้วนี่ จะอะไรกะชั้นนักหนา หา!!! บลาๆๆๆๆ
ใจเย็นๆ ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะบอกเล่าเท้าความให้ฟังว่าเพราะอะไร
คือว่า เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ.....
อ้าว ทำไมล่ะ? ทำไมต้องสนใจด้วยว่าจะใช้ผิด ก็ในเมื่อเขาว่ากันว่าให้ ฝึกเยอะๆ พูดๆ ไปเถอะ ผิดถูกช่างมันก่อน ออกเสียงมั่วๆ ไปก่อน ไม่ต้องสนใจแกรมกง แกรมม่าด้วย แค่สื่อสารให้เข้าใจก็พอแล้วนี่ จะอะไรกะชั้นนักหนา หา!!! บลาๆๆๆๆ
ใจเย็นๆ ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะบอกเล่าเท้าความให้ฟังว่าเพราะอะไร
คือว่า เรื่องมันเป็นอย่างงี้ครับ.....
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557
พจนานุกรมเจ๋งๆ (Good Dictionary) : เคล็ดลับที่ 2 ในการเรียนภาษาอังกฤษ
พจนานุกรม หรือ Dictionary เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ (หรือภาษาไหนๆ ก็ตาม)
แม้แต่คนที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ก็ยังมีคำศัพท์อีกมากมายที่ยังไม่รู้ ซึ่งบางทีเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ยังไม่เคยเห็นคำๆ นี้ มาก่อนก็มี (เอาตัวอย่างง่ายๆ ภาษาไทยเราก็ได้ครับ คำว่า "มะงุมมะงาหรา" ซึ่งแปลว่า ท่องเที่ยวไปโดยไม่รู้จุดหมาย เคยได้ยินกันมั้ยครับ มีคำนี้จริงๆ นะ ไม่ได้โม้)
ดังนั้น การเรียนภาษาอังกฤษ จึงต้องมี Dictionary ดีๆ ติดตัวไว้ (ดุจดั่งสามีที่มีคุณภรรยาตามติดไม่ห่าง)
แล้วเจ้า ดิก (ขอเรียกสั้นๆ นะครับ) ดีๆ มันเป็นยังไงล่ะ? ผมจะเผยเคล็ดลับให้ฟังครับ
แม้แต่คนที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ก็ยังมีคำศัพท์อีกมากมายที่ยังไม่รู้ ซึ่งบางทีเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ยังไม่เคยเห็นคำๆ นี้ มาก่อนก็มี (เอาตัวอย่างง่ายๆ ภาษาไทยเราก็ได้ครับ คำว่า "มะงุมมะงาหรา" ซึ่งแปลว่า ท่องเที่ยวไปโดยไม่รู้จุดหมาย เคยได้ยินกันมั้ยครับ มีคำนี้จริงๆ นะ ไม่ได้โม้)
ดังนั้น การเรียนภาษาอังกฤษ จึงต้องมี Dictionary ดีๆ ติดตัวไว้ (ดุจดั่งสามีที่มีคุณภรรยาตามติดไม่ห่าง)
แล้วเจ้า ดิก (ขอเรียกสั้นๆ นะครับ) ดีๆ มันเป็นยังไงล่ะ? ผมจะเผยเคล็ดลับให้ฟังครับ
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557
แรงจูงใจ (Motivation) เคล็ดลับแรกสุดในการเรียนภาษาอังกฤษ
แรงจูงใจ (Motivation) ถือว่าเป็นบันไดขั้นแรกในการเรียนภาษาอังกฤษเลยครับ จริงๆ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องเริ่มจากแรงจูงใจทั้งนั้น
ดังที่ สตีฟ จอบส์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า
แล้วมันเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษยังไง ?
วิธีเดียวที่จะทำงานให้ได้ผลดีเยี่ยม คือ คุณต้องรักในสิ่งที่ทำ ถ้าคุณยังไม่เจอสิ่งที่รักในตอนนี้ จงมองหาไปเรื่อยๆ อย่าด่วนสรุป เพราะมันเป็นเรื่องของหัวใจ คุณจะรู้ได้เอง เมื่อเจอสิ่งที่รัก
แล้วมันเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษยังไง ?
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557
7 เคล็ดลับวิธีการเรียนภาษาอังกฤษอย่างสนุกและมีประสิทธิภาพ
จากที่ผมได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่า การเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาใดๆ ก็ตาม เราจะต้องเรียนด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามธรรมชาติ เหมือนกับที่เราได้เรียนรู้ภาษาไทยของเรา (ใครจำได้บ้างครับว่า เราเก่งภาษาไทยตั้งแต่เมื่อไหร่) และวิธีการต่อไปนี้คือเคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษอย่างสนุกและมีประสิทธิภาพครับ
เคล็ดลับแรกสุด ก่อนอื่นใดเลย เราต้องมี หรือสร้าง แรงจูงใจ (Motivation) ในการเรียนภาษาอังกฤษก่อน เราต้องกลายเป็นผู้ที่ชอบเรียนรู้ภาษาอังกฤษก่อน (ยิ่งถึงขั้นคลั่งไคล้หลงไหลยิ่งดีครับ)
หา Dictionary ดีๆ สักเล่ม และต้องเป็น Dictionary ภาษาอังกฤษ-อังกฤษ จะดีที่สุดครับ แนะนำให้ใช้ Longman Dictionary หรือถ้าไม่อยากเสียตังค์ซื้อ ก็ใช้ online เลยครับ ฟรีครับ www.ldoceonline.com
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557
ทักทายแนะนำตัว
"โอ๊ย !!! เรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปี 10 ปี แล้วทำไมชั้นยังพูดไม่ได้ ฟังไม่ออก อ่านไม่รู้เรื่อง เขียนออกมาแล้วงง (อย่าว่าแต่ฝรั่งงง ตัวเองยังงง ว่าเขียนอะไรออกมา) ท้อแท้เหลือเกิน"
"คำศัพท์ก็เยอะแยะ แกรมม่าก็หยุมหยิมจุกจิก โดยเฉพาะเจ้าพวก Tense เทิ้นอะไรเนี่ย มันใช้ยังไง ใช้เมื่อไหร่ จะเข้าบ้านพักคนชราอยู่แล้วยังใช้ไม่เป็นเลย หงั่กๆ ชาติหน้าขอไปเกิดเป็นฝรั่งเลยดีมั้ย !!"
"คำศัพท์ก็เยอะแยะ แกรมม่าก็หยุมหยิมจุกจิก โดยเฉพาะเจ้าพวก Tense เทิ้นอะไรเนี่ย มันใช้ยังไง ใช้เมื่อไหร่ จะเข้าบ้านพักคนชราอยู่แล้วยังใช้ไม่เป็นเลย หงั่กๆ ชาติหน้าขอไปเกิดเป็นฝรั่งเลยดีมั้ย !!"
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ขอต้อนรับสู่ Learn English Secret Blog
เชื่อว่าหลายๆคน คงจะเคยระเบิดความอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ อย่างที่บ่นๆ ไว้ข้างบนนะครับ (ผมเองก็เหมือนกัน)
ปัญหาที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ประสบพบเจอในการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ผมสีดำจนกระทั่งผมเป็นสีขาวนั้น เหมือนกันทุกคนครับ คือ การเรียนภาษาอังกฤษแบบคณิตศาสตร์ ไม่ใช่เรียนภาษาตามธรรมชาติ (เคยอายเหมือนผมมั้ยครับ เวลาที่เห็นเด็กฝรั่ง ไม่กี่ขวบ พูดอังกฤษปร๋อเลย หรือเด็กไทยบางคน อย่างน้องณัชชา ที่พูดได้ทั้ง ไทย อังกฤษ จีน)
อ้าว แล้วเรียนภาษาอังกฤษแบบคณิตศาสตร์ มันเป็นยังไงเหรอ?
อย่างนี้ไงครับ
คณิตศาสตร์ ก็คือการท่องจำสูตร, แทนค่า, คำนวน และได้ผลลัพธ์ เช่น
โจทย์ : จงหาพื้นที่สามเหลี่ยมทั่วไป
ใช้สูตร : สามเหลี่ยมทั่วไป = ½ x ฐาน x สูง
แทนค่า : ½ x 12 x 23
ผลลัพธ์ : 138 ตร. ซม.
ใช้สูตร : สามเหลี่ยมทั่วไป = ½ x ฐาน x สูง
แทนค่า : ½ x 12 x 23
ผลลัพธ์ : 138 ตร. ซม.
และภาษาอังกฤษที่เราเรียนๆกันมาในโรงเรียน คือ
โจทย์ : กินข้าวยัง? (สมมติมีฝรั่งมาถาม และอยากเลี้ยงข้าวเรา เพราะเราน่ารัก)
เราต้องการตอบว่า ชั้นเพิ่งจะกินมา (เผอิญฝรั่งไม่หล่อ เลยเชิ่ดใส่ หยิ่งๆ)
เอ? กินแล้ว ต้องใช้ tense อะไรหว่า? อ๋อ Present Perfect Tense อืม สูตรมันคือ
Present Perfect = Subject + Verb to have (have/has) + Verb ช่อง 3
แทนค่าเลย อืม ประธานหรือ Subject ต้องเป็น I (เพราะชั้นคนเดียว)
Verb to have อืม มี Has กับ Have ใช้ไรดีหว่า อ๋อ จำได้แระ Subject = I ฉะนั้นต้องเป็น have
สุดท้าย Verb ช่อง 3 ของคำว่า “กิน” อืม eat, ate, eaten อ๋อ eaten
เอาละแทนค่าได้แล้ว I + have + eaten
(ขั้นตอนนี้ กินเวลากว่า 5 นาที ปรากฏว่า ฝรั่งไปแล้วครับ รอไม่ไหว ยินดีด้วยครับ :))
นี่แหละครับ ปัญหาที่เราเจอ ฉะนั้น เราต้องเรียนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ ตามแนวทางที่ถูกต้องเหมือนอย่างที่เราสามารถพูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาไทยของเราได้
แล้ว....การเรียนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ อย่างสนุกและมีประสิทธิภาพ ต้องเรียนอย่างไรล่ะ?
นี่คือที่มาของการก่อกำเนิด Blog นี้ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)